บางครั้งก็ต้องยอม

          เราได้กล่าวถึงมาแล้วว่าการ ผูกขาด อาจก่อให้เกิดผลเสียแก่ผู้บริโภคได้มาก เนื่องจากผู้ประกอบธุรกิจที่ผูกขาด อาจขึ้นราคาสินค้าเพื่อตักตวงกำไรให้มากขึ้น และอาจแสวงหากำไรโดยไม่คิดสนใจจะพัฒนาคุณภาพของสินค้าหรือบริการของตนให้ดีขึ้น ทำให้ผู้บริโภคได้รับบริการหรือสินค้าที่ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็นในขณะที่ต้องจ่ายค่าสินค้าหรือค่าบริการใน ราคาแพง เมื่อเทียบกับ คุณภาพ ที่ได้รับ แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าทุกครั้งที่เกิดการ ผูกขาด เราต้องเข้าไปจัดการเพื่อขจัดการผูกขาดนั้นให้หมดสิ้นไป เพราะบางครั้งกฎหมายเองก็ยอมรับและอนุญาตสิทธิในการผูกขาดนั้นแก่ผู้ประกอบธุรกิจเอง

          กรณีหนึ่งที่กฎหมายให้สิทธิในการผูกขาดสินค้าหรือบริการแก่ผู้ประกอบธุรกิจเองคือ ทรัพย์สินทางปัญญา ไม่ว่าจะเป็นสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ หรือเครื่องหมายการค้าล้วนแต่มีลักษณะของการให้สิทธิในการ ผูกขาด สินค้าหรือบริการที่อยู่ภายในขอบเขตของ ทรัพย์สินทางปัญญา

          คำถามประการหนึ่งที่อาจจะเกิดขึ้นคือ ทำไมเราต้องให้สิทธิผูกขาดในกรณีเหล่านี้ด้วยในเมื่อเราตระหนักดีว่าการผูกขาดอาจจะส่งผลเสียในการทำให้ ราคา สินค้าหรือบริการแพงขึ้น คำตอบต่อคำถามดังกล่าวนั้นอาจกล่าวได้ว่าเนื่องจากสิทธิผูกขาดในที่นี้ถูกนำไปใช้เป็น แรงจูงใจ" ให้เกิดการ สร้างสรรค์ ผลงานที่ต้องใช้สติปัญญา ความคิดและการลงทุนค้นคว้าวิจัยซึ่งบางครั้งอาจมีจำนวนมหาศาล

          หากเราไม่ให้ แรงจูงใจ ดังกล่าวนี้ เมื่อใดก็ตามที่มีการคิดหรือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่มีคุณค่าทางธุรกิจ จะมีผู้ที่ ลอกเลียน อยู่เสมอเพื่อตักตวงเอาผลประโยชน์จาก ความคิด ของผู้อื่นโดยไม่ต้องลงทุนลงแรงมากนัก

          บริษัท ยอดนักคิด จำกัด ได้ประดิษฐ์ยานพาหนะแบบใหม่ที่มีลักษณะคล้ายรถ แต่ไม่ใช้ล้อ ขณะที่ยานพาหนะดังกล่าวเคลื่อนที่จะลอยสูงเหนือพื้นดินประมาณ 10 เซนติเมตร ทำให้สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วเพราะไม่มีแรงเสียดทานจากพื้นผิวถนน พลังงานที่ใช้ในการขับเคลื่อนก็น้อยกว่ารถยนต์ทั่วไปมาก เมื่อยานพาหนะดังกล่าววางจำหน่ายมีผู้สนใจซื้อจำนวนมากจนไม่สามารถผลิตได้ทันตามความต้องการ ยานพาหนะดังกล่าวมีราคาจำหน่ายคันละ 1 ล้านบาท คนที่ต้องการซื้อต้องจองและรอการผลิตนานกว่าหกเดือนจึงจะได้สินค้า

          บริษัท ลอกเลียน จำกัด เห็นโอกาสที่เกิดขึ้นจากความนิยมของยานพาหนะแบบใหม่นี้จึงได้ซื้อมาหนึ่งคันและทำการ วิศวกรรมย้อนรอยการประดิษฐ์ (reverse engineering)” ด้วยการถอดส่วนประกอบมาดูกรรมวิธีการผลิตยานพาหนะดังกล่าวจนสามารถผลิตยานพาหนะดังกล่าวได้เอง บริษัท ลอกเลียน จำกัด จำหน่ายยานพาหนะดังกล่าวในราคาคันละ 800,000 บาท ทำให้มีผู้สนใจหันมาสั่งซื้อจากบริษัท ลอกเลียน จำกัดเป็นจำนวนมาก เนื่องจากได้สินค้าที่มีคุณสมบัติเหมือนกันทุกประการ ในราคาที่ต่ำกว่ามาก

          เหตุที่บริษัท ลอกเลียน จำกัด สามารถผลิตและขายสินค้าได้ในราคาต่ำกว่าสินค้าของบริษัท ยอดนักคิด จำกัด เนื่องจากบริษัท ลอกเลียน จำกัด ไม่ได้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์นี้มาแต่ต้น แต่อาศัยการนำสิ่งประดิษฐ์ของคนอื่นมาวิเคราะห์โครงสร้างการทำงานเพื่อให้ทราบกรรมวิธีการผลิตของแบบเดียวกัน ในขณะที่บริษัท ยอดนักคิด จำกัด ต้องใช้กำลังความสามารถและการลงทุนมหาศาลตั้งแต่การกลั่นกรองแนวคิดจนเป็นรูปธรรม การลองผิดลองถูกในการสร้างหรือผลิตในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ได้แบบที่สามารถนำมาใช้งานได้ดีที่สุดโดยมีต้นทุนที่ไม่สูงนักซึ่งจะทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะนำมาผลิตในเชิงพาณิชย์ ตลอดจนการทำตลาดให้ประชาชนรู้จักและสนใจซื้อสินค้าที่ประดิษฐ์ใหม่นี้ บริษัท ลอกเลียน จำกัด ไม่มีต้นทุนเหล่านี้จึงทำให้ตั้งราคาสินค้าได้ต่ำกว่า นอกจากนั้น ความเสี่ยงทางธุรกิจของบริษัท ลอกเลียน จำกัดก็ต่ำกว่าเนื่องจากสินค้าเป็นที่รู้จักและเกิดความต้องการซื้อสินค้าในตลาดพอสมควรแล้ว ทำให้แน่ใจได้ว่าเมื่อผลิตสินค้ามาแล้วจะมีผู้สนใจซื้ออย่างแน่นอน

          ผลจากพฤติกรรมทำนองนี้นี่เองที่ทำให้จำเป็นต้องให้ หลักประกัน แก่ผู้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในสังคมว่าหากได้ลงทุนลงแรงใช้สติปัญญาของตนทำสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นแก่สังคมและเกิดประโยชน์แก่ผู้บริโภคทั้งหลายแล้ว ผู้สร้างสรรค์เหล่านั้นจะสามารถนำสิ่งที่ตนสร้างสรรค์มาหาประโยชน์ทางการค้าเพื่อทำให้ได้ ต้นทุน ที่เสียไปในการคิดค้นหรือลงทุนลงแรงไปนั้นกลับคืนมาและได้ ผลกำไร เป็นการตอบแทนให้คุ้มค่าที่เพียงพอจะทำให้ผู้สร้างสรรค์เหล่านี้มี แรงจูงใจ ที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นแก่สังคมและผู้บริโภคต่อไปในอนาคตอีก

          หลักประกัน ที่กฎหมายให้แก่ผู้สร้างสรรค์นี้คือ สิทธิผูกขาด ในสิ่งที่ได้สร้างสรรค์ขึ้น ทำให้ผู้สร้างสรรค์มีสิทธิที่จะหาประโยชน์จากสิ่งที่ตนสร้างสรรค์ขึ้นแต่เพียงผู้เดียว แต่ หลักประกัน" ที่กฎหมายให้ในที่นี้ไม่ได้มีอยู่ตลอดไป หากแต่จะคงอยู่เพียงชั่วระยะเวลาอันจำกัดตามประเภทของทรัพย์สินทางปัญญาแต่ละประเภท เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว บุคคลอื่นย่อมสามารถนำสิ่งที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นนั้นไปใช้หรือหาประโยชน์ได้

          นอกจากการ ผูกขาด ในทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว กฎหมายยังให้สิทธิผูกขาดในกรณีอื่นอีก เช่น การให้สัมปทานในการทำธุรกิจบางประเภทหรือบางกรณี เนื่องจากโดยสภาพของทรัพยากรที่เกี่ยวข้องมีอยู่จำกัด ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจเพียงบางรายเท่านั้นที่จะสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรดังกล่าวได้ เช่น แร่ น้ำมัน หรือแม้กระทั่ง คลื่นความถี่ เพื่อการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ โดยการประกอบธุรกิจบางลักษณะต้องใช้ต้นทุนที่สูงมาก หากปราศจาก หลักประกัน" ที่จะทำให้สามารถได้ คืนทุน ที่เสียไปด้วยการได้รับสิทธิผูกขาดในการประกอบธุรกิจ อาจจะไม่มีผู้กล้าพอจะลงทุนจำนวนมากโดยที่ไม่แน่ใจว่าจะได้ผลตอบแทนเพียงพอหรือไม่ ทำให้มีความจำเป็นต้องให้ สิทธิผูกขาด เป็นหลักประกัน

          การ ผูกขาด ในกรณีข้างต้นเป็นการให้สิทธิโดยผลของกฎหมายอาจจะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ไม่ยาก แต่สถานการณ์อีกรูปแบบหนึ่งที่บางครั้งยากต่อการ เข้าใจ พอสมควรคือการผูกขาดที่เกิดขึ้นจากการประกอบธุรกิจตามปกติที่ผู้ประกอบธุรกิจบางรายสามารถผลิตสินค้าหรือให้บริการที่มีลักษณะที่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคดีกว่าผู้ประกอบธุรกิจรายอื่นที่เป็นคู่แข่ง ทำให้บรรดาคู่แข่งเหล่านั้นไม่สามารถประกอบธุรกิจสู้ได้ ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจรายดังกล่าวสามารถครอบครองส่วนแบ่งตลาดทั้งหมดหรือแทบทั้งหมดได้จนเกิดเป็นสถานการณ์ที่เป็นการ ผูกขาด ขึ้น

          หากเราย้อนกลับไปดูกรณีของ บริษัท ยอดเยี่ยม จำกัด กับ บริษัท พอประมาณ จำกัด ที่เป็นผู้ผลิตเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้แร่แพลทตินัมเป็นวัตถุดิบที่สำคัญ ภายหลังจากที่บริษัท ย่ำแย่ จำกัด ซึ่งเดิมเคยเป็นคู่แข่งอีกรายหนึ่งได้เลิกกิจการไปแล้ว บริษัท ยอดเยี่ยม จำกัด กับบริษัท พอประมาณ จำกัด ได้แข่งขันในทางธุรกิจกันต่อไป บริษัท พอประมาณ จำกัด ได้ทำการวิจัยและพัฒนากระบวนการผลิตและคุณสมบัติของเครื่องมือแพทย์ชนิดดังกล่าวโดยลงทุนไปกว่า 40 ล้านบาท ทำให้สามารถลดปริมาณแร่แพลทตินัมที่ใช้เหลือเพียง 90 กรัมต่อการผลิตสินค้า 10,000 ชิ้น เป็นผลให้ต้นทุนการผลิตลดลงเหลือชิ้นละ 8,000 บาท ในขณะที่บริษัท ยอดเยี่ยม จำกัด ยังคงมีต้นทุนการผลิตอยู่ที่ชิ้นละ 10,000 บาท บริษัท พอประมาณ จำกัด จึงลดราคาสินค้าเหลือชิ้นละ 9,000 บาท ทำให้ลูกค้าเปลี่ยนมาซื้อสินค้าของบริษัท พอประมาณ จำกัดมากขึ้นเรื่อยๆจนอีกไม่กี่ปีต่อมาสามารถเพิ่มยอดขายได้ถึง 160,000 ชิ้นต่อปี ส่วนบริษัท ยอดเยี่ยม จำกัดขายได้เพียง 30,000 ชิ้นต่อปี บริษัท ยอดเยี่ยม จำกัด มีโครงสร้างธุรกิจค่อนข้างเทอะทะ มีรายจ่ายประจำสูง ทำให้ไม่สามารถปรับตัวได้ สุดท้ายจึงได้เลิกประกอบกิจการไป

          กรณีดังกล่าวนี้จะเห็นได้ว่าสุดท้ายเหลือผู้ประกอบธุรกิจเหลือเพียงรายเดียวเท่านั้นคือบริษัท พอประมาณ จำกัด แต่การที่ไปสู่จุดดังกล่าวได้เกิดจากการที่บริษัท พอประมาณ จำกัด พัฒนากระบวนการผลิตสินค้าของตนจนทำให้สามารถดึงดูดลูกค้ามาซื้อสินค้าของตนได้มากกว่า เราคงไม่สามารถใช้อำนาจของกฎหมายไปสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจเหล่านี้เพิ่มต้นทุนให้ใกล้เคียงกับคู่แข่งหรือตั้งราคาให้สูงใกล้เคียงกับของคู่แข่งเพื่อให้คู่แข่งเหล่านั้นอยู่รอดประกอบธุรกิจต่อไปได้ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดการผูกขาดและรักษาการแข่งขันในตลาดไว้ต่อไป เพราะการทำลักษณะนั้นมีแต่จะเป็นประโยชน์แก่บรรดา คู่แข่ง เหล่านั้นมากกว่าจะเป็นประโยชน์แก่ ผู้บริโภค" เพราะแม้จะรักษาการแข่งขันให้มีอยู่ แต่เป็นการแข่งขันที่ทำให้ผู้บริโภคต้องรับภาระในการ จ่ายราคาสินค้า ที่แพงกว่าที่ควรจะเป็น ผู้บริโภคกลับกลายเป็นผู้ให้การ อุดหนุน ให้บรรดา คู่แข่ง ที่ขาดประสิทธิภาพในการประกอบธุรกิจให้ประคองตัวไปวันๆ ส่วนผู้ประกอบธุรกิจที่มีประสิทธิภาพดีอยู่แล้วกลับยิ่งได้ผลกำไรมากขึ้นจากการกำหนดราคาที่สูงเพื่อให้ใกล้เคียงกับราคาของคู่แข่งดังกล่าว ผู้บริโภคจึงแทบไม่ได้อานิสงส์ที่เป็นประโยชน์ใดๆ

          ความกริ่งเกรง ถ้าหากมี สำหรับกรณีข้างต้นนี้คือเมื่อบริษัท พอประมาณ จำกัด เป็นผู้ผลิตอยู่รายเดียว บริษัท พอประมาณ จำกัด อาจจะขึ้นราคาสินค้าของตนขึ้นไปอีกมากเพื่ออาศัยจังหวะกอบโกย ความเสี่ยงดังกล่าวถือว่ามีอยู่ แต่ราคาที่ขึ้นสูงไปนั้นจะเกิดเป็นแรงจูงใจให้ผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่นำสินค้าลักษณะเดียวกันมาขายแข่งได้ ไม่ว่าจะด้วยการผลิตด้วยตนเองหรือนำเข้าจากประเทศอื่น สุดท้ายย่อมจะทำให้เกิดการแข่งขันขึ้นมาอีกครั้ง

          ด้วยเหตุต่างๆ ข้างต้นนี้เองที่ทำให้บางครั้งเราไม่อาจหลีกเลี่ยงหรือขจัดไม่ให้มีการผูกขาดได้ในทุกกรณี บางครั้งก็ต้องยอมให้การผูกขาดอยู่รอดต่อไปตราบเท่าที่ไม่มีการนำการผูกขาดนั้นไป กลั่นแกล้ง ผู้อื่นอย่างไม่เป็นธรรม

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ความรับผิดของผู้ถือหุ้น หุ้นส่วน หรือบุคคลที่มีอำนาจควบคุมนิติบุคคล

ฮั้ว