นมเสีย

แม่ๆ ผมขอดื่มนมเปรี้ยวในตู้เย็นหน่อยได้มั๊ยครับ เก่งพูดกับแม่หลังจากกลับจากเล่นวีดีโอเกมที่บ้านเพื่อน
          เอาสิลูก แม่เพิ่งซื้อมาเมื่อเช้านี้เอง แม่ใส่ไว้ในตู้เย็นเรียบร้อยแล้ว ดื่มนมเสร็จอย่าลืมไปอาบน้ำอาบท่าเสียละ ตัวเหนียวเหนอะหนะไปหมด เดี๋ยวพอพ่อกลับมาจะได้ทานข้าวกัน แม่เหลือผัดผักอีกอย่างเดียวก็เรียบร้อยแล้ว แม่บอกเก่งขณะที่กำลังง่วนกับการหั่นผักเพื่อทำกับข้าวสำหรับมื้อเย็น
          “ได้ครับแม่ พอพูดเสร็จเก่งก็รีบเปิดตู้เย็นหยิบขวดนมเปรี้ยวรสผลไม้รสโปรดออกมาทันที หลังจากใช้เวลาเพียงเล็กน้อย เก่งก็ดื่มนมรวดเดียวหมด
ทำไมวันนี้นมมันรสไม่เหมือนครั้งก่อนที่แม่เคยซื้อมาเลยละครับ ผมว่ามันแปลกยังไงก็ไม่รู้ เก่งบ่นกับแม่ ไม่หรอก ลูกคงจะไปทานอะไรมาก่อนที่จะทานนม มันก็เลยทำให้รสมันแปลกไป แม่เพิ่งซื้อมาเมื่อเช้านี้เองนะ แม่หันมาตอบเก่งด้วยสีหน้าประหลาดใจ
แม่ผมไปอาบน้ำก่อนนะครับ เสร็จแล้วผมจะจัดตารางสอนของพรุ่งนี้หน่อย ถ้าพ่อกลับมาแล้วแม่เรียกผมด้วยแล้วกันนะครับ
ไปสิลูก แม่บอกแล้วหันไปหยิบผักที่หั่นไว้ใส่ลงกระทะที่น้ำมันกำลังเดือดพอดี
หลังจากที่แม่ของเก่งทำกับข้าวจัดวางไว้บนโต๊ะอาหารเสร็จเรียบร้อยก็พอดีกับที่มีเสียงรถถอยเข้าไปจอดในโรงรถ อีกสักครู่พ่อของเก่งก็เปิดประตูเข้ามาในบ้านวันนี้รถติดมาก พ่อเลยกลับมาช้าไปหน่อย ขับรถจนเมื่อยตัวไปหมดแล้ว กลิ่นอะไรหอมจังเลย แม่ทำอะไรทานนะ
แม่ผัดผัก ทำแกงจืด แล้วก็มีแกงเขียวหวานไก่ด้วย
แหม ของโปรดของพ่อทั้งนั้นเลย แล้วเก่งทำอะไรอยู่ละ ไม่ได้ยินเสียงเลย
สงสัยทำอะไรอยู่ในห้องนอน เห็นขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดได้สักชั่วโมงกว่าแล้วละ แม่พูดด้วยความสงสัย ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพ่อขึ้นไปดูเก่งข้างบนหน่อยนะ

พ่อเคาะประตูห้องนอนของเก่งแล้วเปิดประตูเข้าไปหลังจากที่ได้ยินเสียงเก่งบอก ทำอะไรอยู่เหรอลูก เห็นแม่บอกว่าขึ้นมานานแล้ว ผมไม่รู้เป็นอะไรฮะพ่อ ปวดท้องมากเลย รู้สึกคลื่นไส้เหมือนจะอาเจียนด้วยครับ เก่งพูดด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก ไม่ไหวแล้วครับ ผมขอเข้าห้องน้ำหน่อย เก่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ อีกไม่นานก็ได้ยินเสียงเก่งอาเจียนออกมา เย็นวันนั้นเก่งทานข้าวไม่ได้และต้องเข้าห้องน้ำอาเจียนอีกสองสามรอบ พ่อแม่ของเก่งเลยรีบพาไปให้คุณหมอดู หมอลงความเห็นว่าเก่งมีอาการอาหารเป็นพิษซึ่งจากที่เก่งเล่าให้ฟังบ่ายวันนั้นเก่งเล่นเกมตลอด สิ่งเดียวที่ลงถึงกระเพาะของเก่งมีแค่นมเปรี้ยวที่เก่งดื่มเมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว คุณหมอจึงคิดว่าสาเหตุน่าจะมาจากนมเปรี้ยวขวดนั้น

เหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ เพียงแต่ไม่ได้เป็นเหตุการณ์ที่จะตกเป็นข่าวครึกโครมมากนัก แต่หลายๆ ครั้งเราอาจพบว่ามีหลายๆ เรื่องที่เป็นข่าวใหญ่โตตามหน้าหนังสือพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นข่าวนมปนเปื้อนสารเมลามีน ของเล่นเด็กผสมสารตะกั่ว และอีกหลายๆ เรื่อง

บางครั้งที่เราฟังเพื่อนฝูงในที่ทำงานพูดคุยกันบ้าง คุยกับเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงบ้าง เราจะเจอบ่อยๆว่าของที่เราซื้อมาใช้ เกิดทำให้คนที่ใช้หรือแม้แต่คนใกล้เคียงได้รับบาดเจ็บ ล้มตายหรือล้มหมอนนอนเสื่ออยู่เสมอๆ
          ถ้าเป็นเมื่อก่อน การที่เราจะ เอาเรื่อง กับคนที่เกี่ยวข้องออกจะยุ่งยากและโอกาสที่จะเรียกร้องอะไรก็แล้วแต่หรือให้คนที่ควรต้องรับผิดชอบได้แสดงความรับผิดชอบของตัวค่อนข้างจะริบหรี่

ความยุ่งยากที่ว่ามานี้มาจากสาเหตุหลายประการด้วยกัน

ความยุ่งยากประการแรกมาจากการฟ้องร้องเอาเรื่องเอาราวกับ คนที่ควรต้องรับผิดชอบ เหล่านั้น ต้องผ่านขั้นตอนและกระบวนการทางกฎหมายมากมาย การที่จะดำเนินการก็เต็มไปด้วยกรรมวิธีทางกฎหมายที่สลับซับซ้อน ต้องอาศัยผู้ทรงความรู้ทางด้านกฎหมายมาช่วยดำเนินการ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็เกิดขึ้นตามรายทางโดยตลอด กว่าจะรู้เรื่องรู้ราวก็ไม่รู้ว่าจะคุ้มกับสิ่งที่เรียกร้องได้มาหรือไม่

ความยุ่งยากประการต่อมา คือ ถึงมีกำลังพอที่จะดำเนินการ เอาเรื่อง ด้วยการฟ้องร้องเป็นคดีขึ้นมา ความไม่แน่นอนก็มีอยู่สูงที่จะไม่สามารถทำให้ คนที่ควรต้องรับผิดชอบ ถูกบังคับให้ต้องแสดงความรับผิดชอบของตัวออกมา

 ตามปกติ ถ้าเราจะบอกว่าใครทำอะไรผิดแล้วทำให้เราเสียหาย เราก็ต้อง พิสูจน์ ให้เห็นว่าคนที่เรา อ้าง ว่าเป็นคนทำอะไรผิดนั้นได้ทำอะไรลงไปบ้าง แล้วการกระทำอันไหนที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหายกับตัวเราขึ้นมา

ถ้าถามเราๆ ท่านๆ ว่าการพิสูจน์ที่ว่าจะต้องทำอย่างไรหรือทำด้วยวิธีไหนบ้าง พวกเราส่วนใหญ่คงจะส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยใจเพราะไม่รู้จริงๆ ว่าจะเอาอะไรมา พิสูจน์

อย่าว่าแต่บอกเลยว่าส่วนไหนหรืออุปกรณ์อะไรที่เป็นตัวก่อเหตุ แม้แต่จะบอกว่าข้างในของสิ่งที่ซื้อมามันมีอะไรบ้างหรือมันทำงานอย่างไรยังบอกไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปคิดถึงด้วยซ้ำไปกับการวิเคราะห์เจาะหาสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น

จริงอยู่ในทางปฏิบัติถ้าถามว่ามีทางไหมที่จะพิสูจน์อย่างที่ว่าได้ คำตอบก็คงต้องตอบได้ว่า มี วิธีการก็คือการไปหา ผู้รู้ ไม่ว่าจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์หรือนักอะไรก็แล้วแต่ที่มีความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับกลไกหรือองค์ประกอบของของสิ่งนั้น แล้วขอให้ช่วยตรวจดูสาเหตุ แต่คนที่มีความรู้ความชำนาญในแต่ละเรื่องก็อาจจะมีไม่มากนัก ยิ่งของบางอย่างทั่วทั้งประเทศอาจจะหาคนรู้จริงไม่ได้เลยก็ได้ โดยเฉพาะของที่เพิ่งวางขายหรือเพิ่งคิดค้นขึ้น

ถึงจะหาได้ แต่การที่ท่าน ผู้รู้ เหล่านั้นจะมาช่วยเราก็จะต้องเกิดมีค่าใช้จ่ายขึ้นอย่างแน่นอน เพราะแต่ละคนย่อมต้องมีอาชีพการงานของตัวเอง การจะให้ปลีกเวลามาทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่หน้าที่โดยตรงก็ย่อมต้องมีค่าตอบแทนกันบ้าง หรือแม้แต่บางคนที่ยอมทำให้ฟรี แต่การค้นหา จุดบกพร่อง ของสินค้าต่างๆ ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายในการทดลองหรือแม้แต่การไปซื้อของชิ้นอื่นมาศึกษา

ภาระ ที่เกิดขึ้นเหล่านี้จึงอาจทำให้ไม่คุ้มกับค่ายารักษาที่ต้องเสียไป หลายคนจึงก้มหน้าแบกรับภาระที่เกิดขึ้นไว้เอง

นอกจากนั้น หลายๆ กรณีที่เกิดขึ้นก็อาจจะไม่ใช่เรื่องของความผิดหรือความถูกของใคร เพราะสินค้าที่คิดค้นขึ้นมามันอาจจะมีผลข้างเคียงที่ไม่อาจแก้ไขให้หายไปได้ ถ้าจะใช้สินค้านั้นก็อาจจะต้องยอมรับความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย ปัญหาจึงอยู่ที่ว่าในกรณีแบบนี้ใครจะเป็นคนแบกรับ ภาระ ที่เกิดจากผลข้างเคียงเหล่านี้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ความรับผิดของผู้ถือหุ้น หุ้นส่วน หรือบุคคลที่มีอำนาจควบคุมนิติบุคคล

ฮั้ว

บางครั้งก็ต้องยอม