ความรับผิดของผู้ประกอบการ


เราพูดกันมาแล้วว่า ผู้ประกอบการ ที่จะมีส่วนต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัยนี้อาจมีได้หลายคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต ผู้ว่าจ้างให้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ขายสินค้า (ที่ไม่สามารถระบุตัวผู้ผลิต ผู้ว่าจ้างให้ผลิต หรือผู้นำเข้าได้)  หรือผู้ใช้ชื่อหรือแสดงด้วยวิธีใดที่ทำให้เข้าใจว่าเป็นผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า

ความรับผิดของผู้ประกอบการเหล่านี้ตามกฎหมายว่าด้วยความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย ไม่ใช่ว่าจะมีอยู่อย่างไม่จำกัดหรือต้องรับผิดโดยไม่มีข้อแม้หรือเงื่อนไขใดๆ ความรับผิดของผู้ประกอบการเหล่านี้จะเริ่มเกิดขึ้นตามกฎหมายนี้ต่อเมื่อได้มีการขายสินค้าที่เป็นต้นเหตุให้เกิดอันตรายนี้ให้แก่ผู้บริโภคแล้ว

บริษัทไฮโฟน จำกัดได้นำเข้าแบตเตอรี่โทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่น ลองทอล์ค มาจากประเทศจีนจำนวน 100,000 ชิ้น ปรากฏว่าแบตเตอรี่รุ่นนี้มีความบกพร่องที่เกิดขึ้นในระหว่างการผลิตที่โรงงานของผู้ผลิตที่ประเทศจีน ทำให้แบตเตอรี่อาจจะระเบิดได้หากอยู่ในอุณหภูมิที่สูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ในระหว่างที่กำลังรอให้สินค้าที่สั่งมาผ่านพิธีการศุลกากร ตู้คอนเทนเนอร์ที่เก็บแบตเตอรี่ระเบิดขึ้น ทำให้นายโชคซึ่งเป็นคนงานท่าเรือที่บังเอิญอยู่ใกล้ตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวขณะเกิดเหตุได้รับบาดเจ็บ

กรณีนี้จะเห็นได้ว่าแม้สินค้าที่เป็นสาเหตุให้เกิดอันตรายจะเป็นสินค้าที่มี ความบกพร่องในการผลิต เนื่องจากเกิดความผิดพลาดในระหว่างกระบวนการผลิตสินค้าที่โรงงานในประเทศจีน และปรากฏว่าความบกพร่องดังกล่าวมีสาเหตุที่ทำให้สินค้าที่บริษัทไฮโฟน จำกัด สั่งเข้ามาเกิดระเบิดขึ้นจนทำให้นายโชคได้รับบาดเจ็บ แต่บริษัทไฮโฟน จำกัด ยังไม่ได้ขายสินค้ารุ่นนี้ให้แก่ผู้บริโภค หลักเกณฑ์ต่างๆ ตามกฎหมายว่าด้วยความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัยที่เรากำลังกล่าวถึงอยู่นี้จึงยังไม่บังคับใช้กับกรณีดังกล่าว

การที่บอกว่ากฎหมายว่าด้วยความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัยไม่บังคับใช้กับกรณีที่นายโชคได้รับบาดเจ็บนี้ไม่ได้หมายความว่าบริษัทไฮโฟน จำกัดลอยนวลไปโดยไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ต่อนายโชค เพียงแต่ว่าการที่นายโชคจะฟ้องร้องให้บริษัทไฮโฟน จำกัด รับผิดต้องไปใช้หลักเกณฑ์ตามกฎหมายในกรณีปกติซึ่งได้แก่กฎหมายเรื่องละเมิด นายโชคต้องแสดงให้เห็นว่าเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากความ จงใจหรือประมาทเลินเล่อ ของบริษัทไฮโฟน จำกัด เองโดยไม่สามารถอ้างเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากกฎหมายฉบับนี้ที่กำหนดให้ต้องรับผิดไม่ว่าความเสียหายนั้นจะเกิดจากความ จงใจหรือประมาทเลินเล่อของผู้ประกอบการหรือไม่ก็ตาม

ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่ไม่ปลอดภัยซึ่งอาจจะมีหลายคนนี้จะต้อง ร่วมกัน รับผิดต่อผู้เสียหาย สำหรับท่านที่ไม่คุ้นเคยกับศัพท์แสงทางกฎหมาย การที่ผู้ประกอบการต้องร่วมกันรับผิดนี้ทำให้ผู้เสียหายสามารถเลือกที่จะฟ้องผู้ประกอบการที่อยู่ในข่ายคนใดคนหนึ่งให้ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เต็ม ทั้งจำนวนก็ได้ หรือจะฟ้องให้ผู้ประกอบการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนที่เกิดขึ้นก็ได้ โดยไม่ต้องสนใจว่าในระหว่างผู้ประกอบการแต่ละคนนั้นจะมี ส่วนผิด มากน้อยเพียงใด และความรับผิดชอบของผู้ประกอบการแต่ละคนต่อ ความเสียหาย ที่เกิดขึ้นจะมีเพียงใด ส่วนหากผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งชำระค่าสินไหมทดแทนไปแล้วจะไปไล่เบี้ยเอาจากผู้ประกอบการคืนได้หรือไม่ หรือไล่เบี้ยได้เพียงใดเป็นเรื่องของผู้ประกอบการรายนั้นเอง 

โอกาสที่จะเกิดเหตุให้ต้องรับผิดชอบร่วมกันที่จะเกิดขึ้นได้มากคือในระหว่างผู้ผลิต ผู้ว่าจ้างให้ผลิตและผู้นำเข้า เพราะในกรณีของผู้ขายสินค้าหากสามารถระบุตัวผู้ผลิต ผู้ว่าจ้างให้ผลิตหรือผู้นำเข้าได้ ผู้ขายสินค้าก็ไม่ต้องรับผิดตามกฎหมายนี้ 

เงื่อนไขที่สำคัญของความรับผิด คือ หลักการที่ได้กล่าวถึงไปบ้างแล้วว่าผู้ประกอบการเหล่านี้ต้องรับผิดโดยไม่ต้องดูว่าความเสียหายนั้นเกิดจากการกระทำโดย จงใจหรือประมาทเลินเล่อ หรือไม่ หลักการนี้เราเรียกว่าเป็น หลักความรับผิดอย่างเคร่งครัด (Strict liability)”

หลักการดังกล่าวนี้ถือเป็นหลักการที่สำคัญที่สุดของกฎหมายนี้ เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมากจากหลักการเดิมๆ ที่เราคุ้นเคยกัน เมื่อก่อนหากจะให้ใครรับผิดชอบในความเสียหายจากการกระทำละเมิด เราก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าผู้นั้นทำโดย จงใจหรือประมาทเลินเล่อ เหมือนอย่างกรณีของนายโชคในตัวอย่างข้างต้นต้องพิสูจน์เพราะถือว่าสินค้าที่ไม่ปลอดภัยนั้นยังไม่ถูกขายให้แก่ผู้บริโภคแล้ว

หากเราเปลี่ยนข้อเท็จจริงในกรณีแบตเตอรี่รุ่นลองทอล์คนี้เป็นว่า ในระหว่างเก็บในโกดังหรือระหว่างรอดำเนินพิธีการทางศุลกากรนี้ยังไม่เกิดอันตรายหรือความเสียหายใดๆ แต่ต่อมาเมื่อบริษัทไฮโฟน จำกัด ได้วางขายสินค้านี้ในท้องตลาดซึ่งจะเป็นที่ไหนก็แล้วแต่ นายชัยได้ไปซื้อมาใช้กับโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตัวเอง ระหว่างที่พกโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่บรรจุแบตเตอรี่รุ่นลองทอล์คเรียบร้อยแล้วปรากฏว่าอากาศเกิดร้อนอบอ้าวขึ้นมากะทันหันจนทำให้อุณหภูมิสูง แบตเตอรี่ในโทรศัพท์ของนายชัยจึงเกิดระเบิดขึ้นมาจนทำให้ขาของนายชัยเป็นแผลลึกต้องรักษาอยู่หลายวัน

ในกรณีที่ความเสียหายเกิดขึ้นหลังจากมีการขายให้แก่ผู้บริโภคอย่างเช่นนายชัยแล้วนี้จะมีผลทำให้ ผู้เสียหาย อย่างนายชัยได้รับประโยชน์จากกฎหมายนี้และสามารถเรียกร้องให้บริษัทไฮโฟน จำกัดต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้นายชัยได้โดยไม่ต้องพิสูจน์ว่าในกรณีนี้ความเสียหายเกิดจากการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อของบริษัทไฮโฟน จำกัด หรือไม่ แม้ว่าในระหว่างที่นำสินค้าเข้ามาในประเทศ บริษัทไฮโฟน จำกัดจะใช้ความระมัดระวังในการดูแลรักษาแบตเตอรี่ที่นำเข้ามาอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม


ความรับผิดของผู้ประกอบการ
·       ผู้ประกอบการต้องรับผิดเมื่อสินค้าได้ขายให้แก่ผู้บริโภคแล้ว
·       ผู้ประกอบการแต่ละรายต้อง ร่วมกัน รับผิดต่อผู้บริโภค
·       ผู้ประกอบการต้องรับผิดไม่ว่าความเสียหายจะเกิดจากการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อของผู้ประกอบการหรือไม่



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ความรับผิดของผู้ถือหุ้น หุ้นส่วน หรือบุคคลที่มีอำนาจควบคุมนิติบุคคล

ฮั้ว

บางครั้งก็ต้องยอม