มาตรการป้องกันสำหรับ สินค้าที่เหลืออยู่ในท้องตลาด
ตามปกติในการดำเนินคดี
ผลของคำพิพากษาหรือผลของคดีนั้นจะจำกัดเฉพาะกับคนที่เป็นคู่ความในคดีเท่านั้น
ศาลจะพิพากษาหรือมีคำสั่งไปถึงบุคคลภายนอกไม่ได้
เว้นแต่เป็นกรณีที่กำหนดยกเว้นไว้โดยเฉพาะ แต่ในการดำเนินคดีผู้บริโภคบางลักษณะไม่ได้เป็นไปเพื่อประโยชน์เฉพาะแก่ตัวคู่ความในคดีนั้นเท่านั้น
เพราะอาจจะมีผลไปถึงผู้บริโภคโดยรวมด้วย หากจำกันได้ในตอนที่เรากล่าวถึงการถอนฟ้องคดีผู้บริโภคสำหรับกรณีที่ผู้มีอำนาจฟ้องคดีแทนผู้บริโภคเป็นผู้ดำเนินการนั้น
ศาลจะอนุญาตให้ถอนฟ้องได้เฉพาะแต่ในกรณีที่การถอนฟ้องนั้นจะไม่เป็นผลเสียต่อการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นส่วนรวมเท่านั้น
การฟ้องร้องเกี่ยวกับสินค้าที่วางจำหน่ายในท้องตลาดนั้น
แม้จะมีผู้บริโภคที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเพียงรายเดียว
แต่ในท้องตลาดนั้นอาจจะมีสินค้าชนิดเดียวกันวางจำหน่ายอยู่อีกจำนวนมากก็ได้
เพราะตามปกติของการผลิตสินค้าวางจำหน่ายในท้องตลาดย่อมต้องผลิตในปริมาณที่มากพอสมควรเพื่อจะได้ผลตอบแทนคุ้มทุนที่ได้ลงไปและมีกำไรเหลือพอที่จะเป็นแรงจูงใจให้ผลิตสินค้าออกมาจำหน่ายอีก
สินค้าที่วางจำหน่ายในท้องตลาดนี้อาจจะมีลักษณะที่มีปัญหาเช่นเดียวกับสินค้าที่ผู้บริโภคที่เป็นโจทก์ในคดีซื้อไปใช้หรือบริโภคก็ได้
เนื่องจากเป็นสินค้าที่ผลิตโดยผู้ผลิตรายเดียวกันและใช้กรรมวิธีในการผลิตอย่างเดียวกันหรือผลิตในคราวเดียวกัน
หากปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นปัญหาความผิดพลาดในการผลิตที่เกิดขึ้นเฉพาะกับตัวสินค้าชิ้นใดชิ้นหนึ่งแล้ว
โอกาสเป็นไปได้มากที่สินค้าที่ผลิตโดยใช้กรรมวิธีอย่างเดียวกันนั้นจะมีปัญหาที่คล้ายคลึงกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของสินค้า “ล็อต” “รุ่น”
หรือ “แบบ” เดียวกัน
หากต้องให้ผู้บริโภคทุกรายฟ้องร้องดำเนินคดีเกี่ยวกับสินค้าชนิดนั้นเองทุกคนย่อมจะเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรโดยไม่จำเป็น
ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรส่วนบุคคลของผู้บริโภคแต่ละราย
ทรัพยากรของผู้ประกอบธุรกิจที่ต้องต่อสู้คดีเป็นรายๆ ไป หรือทรัพยากรของกระบวนการยุติธรรมที่ต้องดำเนินการในเรื่องที่มีข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญแบบเดียวกันซ้ำ
ๆ กันหลาย ๆ เรื่องซึ่งสุดท้ายผลไม่แตกต่างกัน
นอกจากนั้น
การบังคับให้ต้องดำเนินการเป็นรายกรณีไปโดยต้องให้ผู้บริโภคแต่ละรายเป็นคู่ความฟ้องร้องคดีเองอาจมีผลเท่ากับว่าต้องรอให้เกิดปัญหาหรือบางกรณีเกิดอันตรายขึ้นมากับผู้บริโภคเสียก่อนกฎหมายจึงจะสามารถเข้าไปดูแลได้
ทั้ง ๆ
ที่ปัญหาหรืออันตรายเหล่านั้นอยู่ในวิสัยที่กฎหมายหรือกระบวนการยุติธรรมสามารถป้องกันหรือขจัดไม่ให้เกิดได้แต่แรก
การปล่อยให้ปัญหาหรืออันตรายเกิดขึ้นก่อนจึงจะสามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้ย่อมจะทำให้ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยต้องประสบกับความทุกข์เสียก่อน
ความทุกข์เหล่านั้นหลายกรณีอาจจะร้ายแรงถึงขนาดเจ็บป่วยล้มตายก็เป็นได้
ในกรณีเหล่านั้นความสูญเสียจะไม่ได้มีเพียงค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีเท่านั้น
แต่สังคมและครอบครัวของผู้บริโภคเหล่านั้นยังต้องเกิดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาผู้บริโภคที่ประสบเหตุดังกล่าวด้วย
ในบางกรณีอาจจะทำให้สังคมต้องสูญเสียทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าไปก็เป็นได้
มาตรการของกฎหมายวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภคที่จะใช้บังคับกับบรรดาสินค้าที่อยู่ในท้องตลาดที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ใช้สำหรับกรณีที่สินค้านั้นอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต
ร่างกาย สุขภาพ หรืออนามัยของผู้บริโภคโดยส่วนรวม
หากเป็นกรณีที่สินค้ามีความชำรุดบกพร่อง
แต่เป็นความชำรุดบกพร่องที่เพียงแต่จะทำให้เกิดข้อขัดข้องในการใช้งานตามปกติ และความชำรุดบกพร่องนั้นไม่ถึงขนาดที่จะทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต
ร่างกาย สุขภาพ หรืออนามัยของผู้บริโภคได้ย่อมไม่อาจจะนำมาตรการที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้มาใช้ได้
ในกรณีเหล่านี้คงต้องให้ผู้บริโภคแต่ละรายดำเนินการกับผู้ประกอบธุรกิจเป็นราย ๆ
ไปตามความจำเป็น
หลักเกณฑ์ที่สำคัญของมาตรการสำหรับสินค้าที่อยู่ในท้องตลาดอีกประการหนึ่ง
คือ การใช้มาตรการเหล่านี้ทำได้ต่อเมื่อไม่อาจใช้วิธีการป้องกันอย่างอื่นได้เท่านั้น
หากมีวิธีป้องกันอย่างอื่นที่สร้างภาระแก่ผู้ประกอบธุรกิจน้อยกว่ามาตรการเหล่านี้โดยที่สามารถให้ผลในการป้องกันอันตรายได้ไม่แตกต่างกันก็จะเป็นกรณีที่ไม่สามารถสั่งให้ดำเนินมาตรการเหล่านี้ได้
เช่น หากอันตรายที่จะเกิดขึ้นนั้นจะเกิดเฉพาะกับการใช้งานบางลักษณะเท่านั้น
อาจดำเนินการป้องกันโดยการโฆษณาให้ผู้บริโภคระมัดระวังหลีกเลี่ยงการใช้งานในลักษณะที่จะทำให้เกิดอันตรายเหล่านั้นเสีย
เป็นต้น
มาตรการหนึ่งที่กฎหมายวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภคได้กำหนดขึ้นซึ่งไม่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย
คือ การกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจประกาศรับสินค้าคืน ซึ่งจะมีผลกับบรรดาสินค้าที่มีการวางจำหน่ายในท้องตลาดและผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าเหล่านั้นไปไว้ในความครอบครองแล้ว
ในกรณีนี้
ศาลอาจสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจประกาศรับสินค้าคืนเพื่อไปทำการแก้ไขหรือเปลี่ยนให้ใหม่ภายในเวลาที่กำหนดโดยค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบธุรกิจเอง
ในหลาย ๆ ประเทศจะพบเห็นการประกาศรับคืนสินค้าที่อาจจะเกิดอันตรายได้อยู่บ่อยครั้ง
เช่น กรณีที่เคยประกาศรับคืนแบตเตอรี่ของเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาบางยี่ห้อที่มีปัญหาเรื่องความร้อนที่ทำให้แบตเตอรี่ระเบิดได้
เป็นต้น
ในบางกรณีที่การประกาศรับคืนสินค้าเพื่อแก้ไขหรือเปลี่ยนให้ใหม่ไม่อาจกระทำได้
เช่น ลักษณะของความชำรุดบกพร่องนั้นเป็นกรณีที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้
หรือการเปลี่ยนให้ใหม่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากเลิกผลิตสินค้านั้นไปแล้ว
ทำให้ไม่มีสินค้าใหม่ที่จะเปลี่ยนแทนได้ เป็นต้น
ศาลอาจสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจใช้ราคาให้แทนการดำเนินดังกล่าวก็ได้ ทั้งนี้ ศาลต้องคำนึงถึงลักษณะและสภาพของสินค้าขณะรับคืนและความสุจริตของผู้ประกอบธุรกิจประกอบด้วย
มาตรการอีกประการหนึ่งที่กฎหมายวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภคกำหนดขึ้นเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค
คือ สำหรับสินค้าที่วางจำหน่ายในท้องตลาด
แต่เป็นสินค้าส่วนที่ยังไม่ได้ถูกจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคไป ศาลอาจสั่งห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าที่เหลืออยู่ในท้องตลาดเหล่านี้และให้ผู้ประกอบธุรกิจเรียกเก็บสินค้าเหล่านี้กลับคืนไป (Product
recall)
จนกว่าจะได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงสินค้านั้นจนสินค้ามีความปลอดภัยแล้วจึงจะสามารถนำกลับไปวางจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคได้อีก
ในกรณีที่เป็นความชำรุดบกพร่องที่ไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงจนทำให้สินค้าปลอดภัยได้
ศาลอาจมีคำสั่งห้ามผู้ประกอบธุรกิจผลิตหรือนำเข้าสินค้าชนิดนั้นก็ได้
และหากมีกรณีเป็นที่สงสัยว่าอาจจะมีการนำสินค้าที่เหลือไปจำหน่ายอีก
ศาลอาจจะมีคำสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจทำลายสินค้าที่เหลือนั้นก็ได้
เพื่อเป็นการบังคับให้ปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ
เหล่านี้ หากปรากฏว่ามีการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวข้างต้น
ศาลอาจสั่งจับกุมและกักขังผู้ประกอบธุรกิจหรือผู้มีอำนาจทำการแทนของผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นนิติบุคคลไว้จนกว่าจะปฏิบัติตามคำสั่งก็ได้
หรือศาลอาจจะสั่งให้บุคคลอื่นเป็นผู้ดำเนินการต่าง ๆ
ที่ผู้ประกอบธุรกิจควรจะต้องดำเนินการแทนก็ได้
ในกรณีนี้ผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นผู้วางจำหน่ายสินค้าที่ไม่ปลอดภัยเหล่านี้ต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายของผู้ที่ศาลสั่งให้เป็นผู้ดำเนินการให้แทน
หากผู้ประกอบธุรกิจไม่ชำระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการตามคำสั่งศาล
บุคคลที่ดำเนินการแทนตามคำสั่งศาลนี้สามารถบังคับคดีกับผู้ประกอบธุรกิจเสมือนว่าบุคคลนั้นเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ประกอบธุรกิจโดยไม่ต้องไปฟ้องเป็นอีกคดีหนึ่งต่างหาก
มาตรการป้องกันสำหรับสินค้าที่เหลืออยู่ในท้องตลาด
สำหรับสินค้าที่ได้จำหน่ายไปแล้วหรือที่เหลืออยู่ในท้องตลาดอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต
ร่างกาย สุขภาพ หรืออนามัยของผู้บริโภคโดยส่วนรวม
และไม่อาจใช้วิธีป้องกันอย่างอื่นได้
· กรณีสินค้าที่จำหน่ายไปแล้ว
อาจกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจประกาศและรับสินค้าคืนเพื่อแก้ไขหรือเปลี่ยนให้ใหม่
หากแก้ไขไม่ได้ อาจให้ใช้ราคาแทน
· กรณีสินค้าที่เหลืออยู่ในท้องตลาด
อาจห้ามจำหน่ายและเรียกเก็บสินค้ากลับคืนจนกว่าจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงสินค้าให้ปลอดภัย
o
หากแก้ไขไม่ได้
อาจห้ามผลิตหรือนำเข้าได้
o
หากสงสัยว่าจะนำสินค้าไปจำหน่ายอีก
อาจให้ทำลายสินค้าเสีย
· กรณีไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง
ศาลอาจมีคำสั่งให้
o
จับกุมและกักขังผู้ประกอบธุรกิจหรือผู้มีอำนาจทำการแทนของผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นนิติบุคคลจนกว่าได้ปฏิบัติตามคำสั่ง
o
ให้บุคคลอื่นดำเนินการแทนโดยผู้ประกอบธุรกิจเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
§ หากผู้ประกอบธุรกิจไม่ชำระค่าใช้จ่าย
บุคคลที่ดำเนินการแทนอาจบังคับคดีได้เสมือนเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา
|
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น